พร้อมหรือยัง?.....รับค่าไฟฟ้าเมืองไทย
ค่าไฟฟ้าแพง…..แล้วมันมาจากสาเหตุอะไรล่ะ???? กระแสไฟฟ้าในประเทศไทย…ใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก โดยโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และของเอกชน ส่วนมากเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ
พลังงานไฟฟ้ามาจากไหน
แหล่งพลังงานในไทยอยู่ที่ไหนบ้าง ?
1. ก๊าซธรรมชาติ
สำหรับก๊าซธรรมชาติ ประเทศไทยมีแหล่งผลิตราว 13 แห่งกระจายอยู่ทั่วภูมิภาค โดยมีแหล่งใหญ่คือ แหล่งบงกช และ แหล่งเอราวัณ ซึ่งทั้งสองแหล่งนี้ตั้งอยู่ในอ่าวไทย และล่าสุดมีแหล่งบงกชใต้เพิ่มเข้ามา ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
2. น้ำมันดิบ
แหล่งพลังงานน้ำมันของไทยแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ
▪️ แหล่งพลังงานบนบก
แหล่งพลังงานบนบกจะมีอยู่ที่ภาคเหนือและภาคกลาง เช่น แอ่งฝาง แอ่งพิษณุโลก เป็นต้น
▪️ แหล่งพลังงานในทะเล
เช่น แอ่งจัสมิน แอ่งบานเย็น เป็นต้น
3. ถ่านหิน
ประเทศไทยมีแหล่งถ่านหินกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออก และโดยส่วนมากเป็นถ่านหินลิกไนต์ ซึ่งเป็นถ่านหินคุณภาพต่ำ โดยแหล่งผลิตถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของไทยที่หลายคนรู้จักกันดีคือเหมืองถ่านหินในอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ซึ่งใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก
นอกเหนือจากก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และถ่านหิน ประเทศไทยยังมีการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานน้ำจากเขื่อน หรือพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ทางภาครัฐกำลังผลักดันให้มีสัดส่วนพลังงานในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันไทยมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งประเทศอยู่ที่ประมาณ 45,595.87 เมกะวัตต์
▪️ ผลิตเองจาก กฟผ. 35.13%
▪️ รับซื้อจากเอกชน 64.87%
ซึ่งการรับซื้อจากเอกชน มาจากที่ไหนบ้าง?
▪️ จากประเทศลาว และมาเลเซีย 12.55%
▪️ ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) 32.78%
▪️ ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีกำลังผลิตต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ (VSPPS) 20.84%
*ข้อมูลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ปี 2563
ใครคือผู้ดูแลการขึ้นค่าไฟฟ้าในประเทศไทย
หน่วยงานกำกับดูแลที่ว่านี้ ชื่อ “ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน” หรือ กกพ. ถือเป็นหน่วยงาน ที่ทำหน้าที่เป็น Regulator กิจการ สาธารณูปโภคพื้นฐาน
กิจการพลังงาน ที่ กกพ. มีหน้าที่ต้องกำกับดูแลคือ ไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบัน กิจการไฟฟ้าในประเทศไทย กล่าวได้ว่า ยังอยูในสภาพผูกขาดทุกขั้นตอน คือ การผลิตกระแสไฟฟ้า แม้จะมีการเปิดให้เอกชนผลิตไฟฟ้าได้ แต่เมื่อผลิตแล้ว ก็ต้องขายให้ กับ กฟผ. ในราคาที่ตกลงกัน , ระบบสายส่ง ผูกขาดตามธรรมชาติ โดย กฟผ. ระบบจำหน่าย ผูกขาด โดย กฟผ. , การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ), ระบบค้าปลีก ผู้ขาดโดย กฟน. และ กฟภ.
บทบาทของ กกพ. จึงเป็นไปตามสภาพของโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้า ไม่สามารถกำกับดูแลในทุกๆเรื่อง ที่เกี่ยวกับไฟฟ้า เหมือนในบางประเทศ ที่มีการเปิดเสรี การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าอย่างกว้างขวาง มีกลไกตลาด ทำหน้าที่กำหนดราคาไฟฟ้า ตามดีมานด์ และซัพพลายในแต่ละช่วงเวลา
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยหน้าที่ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มี 18 ข้อดังนี้
1. กํากับดูแลการประกอบกิจการพลังงานเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้ภายใต้กรอบนโยบายของรัฐ
2. ออกประกาศกําหนดประเภทใบอนุญาตการประกอบกิจการพลังงาน และเสนอการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อกําหนดประเภท ขนาด และลักษณะของกิจการพลังงานที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาต
3. กำหนดมาตรการเพื่อให้เกิดความมั่นคงและเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า
4. กําหนดระเบียบและหลักเกณฑ์ในการจัดหาไฟฟ้า และการออกประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้า รวมทั้งกํากับดูแลขั้นตอนการคัดเลือกให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
5. เสนอความเห็นต่อแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้า แผนการลงทุนในกิจการไฟฟ้า แผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติ และแผนการขยายระบบโครงข่ายพลังงานเพื่อนําเสนอรัฐมนตรีตามมาตรา 9 (3)
6. ตรวจสอบการประกอบกิจการพลังงานของผู้รับใบอนุญาตให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
7. ออกระเบียบหรือประกาศและกํากับดูแลมาตรฐานและคุณภาพในการให้บริการ รวมทั้งมาตรการในการคุ้มครองผู้ใช้พลังงานจากการประกอบกิจการพลังงาน
8. เสนอข้อบังคับและจรรยาบรรณในการปฏิบัติงานของกรรมการและพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อรัฐมนตรีตามมาตรา 9 (10)
9. ออกระเบียบหรือประกาศกําหนดนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการมีส่วนได้เสียหรือผลประโยชน์ทับซ้อนของกรรมการและพนักงานเจ้าหน้าที่
10. ออกระเบียบหรือประกาศกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนําส่งเงินเข้ากองทุนและการใช้จ่ายเงินกองทุนให้สอดคล้องกับนโยบายของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติตามมาตรา 9 (8 )
11. ออกคําสั่งและกําหนดค่าปรับทางปกครองตามหมวด 8 การบังคับทางปกครอง
12. เสนอความคิดเห็นหรือให้คำแนะนำต่อรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการประกอบกิจการพลังงาน
13. ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาวิจัยด้านการประกอบกิจการพลังงาน
14. ส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้และความตระหนักทางด้านพลังงาน
15. ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบกิจการพลังงาน
16. ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ พลังงานหมุนเวียน และพลังงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย โดยคํานึงถึงประสิทธิภาพในการประกอบกิจการไฟฟ้าและความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ
17. ประสานงานกับหน่วยงานอื่นในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติการตามที่กําหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
18. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กําหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือที่กฎหมายอื่นกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
สูตรการคิดค่าไฟฟ้า
โครงสร้างค่าไฟฟ้า ประกอบด้วย ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่าไฟฟ้าผันแปร (ft) + ภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat)
ในที่นี้จะอธิบายในส่วนของค่าไฟฟ้าฐาน เนื่องจากเมื่อทราบค่าไฟฟ้าฐานแล้วก็สามารถไปหาค่า ft (เปลี่ยนทุก4เดือน) และ vat ได้โดยง่าย
ค่าไฟฟ้าฐาน = จำนวนยูนิต X อัตราค่ากระแสไฟฟ้าต่อหน่วย